10 นิสัย ที่ทำให้ดูเป็นผู้ใหญ่ และน่าเชื่อถือ

1. การควบคุมอารมณ์

การได้ระบ ายอารมณ์ออกมาบ้าง “เป็นครั้งคราว” จะดีต่อคุณผู้ชายทั้งหลาย การที่ได้แสดงทางอารมณ์จะช่วยให้สุขภาพจิตของหนุ่ม ๆ ดีขึ้น และยังช่วยทำให้ประสิทธิภาพความแข็งแร งของร่างกายดีขึ้น และยังช่วยให้การเจรจาต่อรองทางธุรกิ จดีขึ้น

แต่..คุณผู้ชายทั้งหลายมักจะลืมไปว่า “บางครั้ง ,ครั้งคราว , นาน ๆ ที ” แล้วยังแสดงอาการระบ ายอารมณ์เต็มที่อย่ าง “บ่อยครั้ง” แม้ว่ามันจะค่อนข้างย ากที่จะปรับอารมณ์ให้เย็นลงประดุจน้ำแข็ง เพื่อรักษาสถานการณ์ได้ขึ้น แต่มันเป็นหนทางที่ดีที่สุดในในสถานกานนั้น ๆ และที่แน่ ๆ คนที่โตพอเขาจะรู้ว่าเวลาใดที่พวกเขาจะสามารถปล่อยระเบิ ดได้เต็มที่และเวลาใดไม่ควรทำ

2. ดูดีจากภายใน สู่ภายนอก

คงไม่มีใครบนโลกใบนี้ ที่มีร่างกายที่เพอร์เฟ็กต์ ฉะนั้น ผู้ชายทุกคนจะพบว่าร่างกายตนเองเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ซึ่งเป็นสัจธรรมของชีวิตอยู่แล้ว และสิ่งที่เราอย ากบอกคุณผู้ชายทั้งหลายนั่นคือ

การดูแลตัวเอง จากภายใน สู่ภายนอก ด้วยการมีจิตใจที่ร่าเริง แจ่มใส มีความสุข เรียกง่ายๆ ว่าหล่อจากภายในนั่นเอง รวมทั้งการดูแลตัวเองจากภายนอก เช่น การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ตามแต่ละช่วงวัยของหนุ่ม ๆ โดยให้ไปเป็นตามหลักธรรมชาติ และการดูแลตัวเองตามหลักธรรมชาติเช่นกัน เมื่อคุณโตเป็นผู้ใหญ่พอ คุณจะรู้ว่าวิธีไหนจะรักษ าสุขภาพกายใจของคุณอย่ างยั่งยืนที่สุด

3. เพราะรัก จึงบอก

เพราะรัก จึงบอกว่า “รัก”
เรียกว่าสมัยนี้หนุ่ม ๆ ส่วนใหญ่พูดคำนี้ อย่ างสิ้นเปลื้องมาก เราขอบอ กหนุ่ม ๆ ว่าผู้ชายที่เขาโตกันแล้วเนี่ย เขาจะไม่พูดคำว่ารักพร่ำเพื่อหรอกนะ

คนที่โตๆกันแล้ว จะเรียนรู้จากประสบการณ์และด้วยความเป็นผู้ใหญ่ จะเข้าใจถึงความรักที่แท้จริงว่ามันควรจะเอ่ยเมื่อใด กับใคร จึงจะเหมาะสม และเขาจะกล่าวคำว่า “รัก” ถ้าเขารู้สึกแบบนั้นกับคน ๆ นั้นจริง ๆ ถ้าเมื่อไหร่ที่โตแล้วไม่พูดรักพร่ำเพื่อกันนะ

4. ต้องเก็บอารมณ์ให้เป็น

หนุ่ม ๆ ต้องเรียนรู้การแสดงอารมณ์อย่ างถูกวิธี เชื่อว่าหลายคนสามารถแสดงออกอย่ างสร้างสรรค์ได้ดี ก็มีส่วนน้อยที่จะทำได้เช่นกัน หนุ่มเจ้าโทสะบางคนหากมีอะไรขัดใจล่ะก็ ทั้งเหวี่ยง ทั้งวีน เอาแต่ใจ หากเป็นแบบนี้ แสดงว่ายังไม่โตพอนั่นเอง

ดังนั้น เมื่อคุณอย ากโตเป็นผู้ใหญ่ จงเลิกพฤติก ร ร มเหล่านี้ คนที่โตแล้วเขาจะมีวุฒิภาวะพอ จะแสดงออกทางอารมณ์ที่เหมาะสมกับสถานการณ์ กับบุคคลต่าง ๆ ได้ดี เช่น อาจจะแสดงความเศร้ าโศ กเสี ยใจกับเพื่อนสนิทของคุณได้ หรือต้องเก็บอารมณ์โกร ธถ้าโดนขัดใจในที่สาธารณะ จงเรียนรู้วิธีแสดงออกอย่ างเหมาะสม ไม่งั้นจะไม่โตสักที

5. โบกมือลากับสิ่งที่ แ ย่ ๆ

ช่วงวัยเด็ กจนถึงวัยรุ่น หนุ่ม ๆ ทุกคนก็จะได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ต่างกัน ได้รู้จักผู้คนมากมาย ซึ่งทุกคนต้องแยกออกอย่ างแน่นอนว่าสิ่งไหนคือสิ่งแวดล้อมที่ดี หรือไม่ดี รวมทั้งบุคคลใดที่คุณควรคบ ควรสนิทแค่ไหน หรือแม้แต้เพื่อนบางคนที่ควรถอยห่าง

มิเช่นนั้น พวกเขาอาจจะฉุ ดคุณลงเห ว แต่เราก็เข้าใจว่าการเลิกคบเพื่อนที่คบมานานไม่ใช่เรื่องง่าย แล้วคุณอย่ าลืมว่าเพื่อนที่ดีต้องไม่ฉุ ดให้ชีวิตคุณไม่ก้าวหน้า ชีวิตคุณต้องเดินต่อไปข้างหน้าเพื่ออนาคตที่ดี ฉะนั้นโบกมือลาสิ่งที่ทำให้คุณไม่พัฒนา จะเป็นการดีที่สุดสำหรับคุณนะ

6. บอกลาความเสี ยใจทั้งหลายเหล่านั้น

ขงจื้อ ได้กล่าวว่า “ความผิดพลาดอันเกิดขึ้นมันก็ไม่มีผลอะไร เว้นแต่คุณไปนั่งคิดนั่งจำมันต่อไป” ทุกคนมีความผิดพลาดในชีวิตกันหลายครั้ง ด้วยธรรมชาติของมนุษย์เรามักจะชอบจำในเรื่องความผิ ดและปล่อยให้มันมาทำร้ า ยจิตใจของเราอยู่เสมอ บางครั้งเป็นเหตุให้ร่างกายและจิตใจ แ ย่ ลงได้

แล้วคุณคิดว่ามันมีเหตุผลดีงามอะไรที่จะต้องมานั่งจำเรื่องพวกนี้ไปตลอดชีวิตล่ะ ลองเปลี่ยนเรื่องพวกนี้เป็นบทเรียนให้เป็นแร งผลักดันในชีวิตของคุณดีกว่ามั้ย

การเก็บเรื่องพวกนี้มาเป็นอารมณ์ไม่ได้ช่วยให้สุขภาพของคุณดีขึ้นหรอก คนที่โตๆกันแล้ว จะไม่ปล่อยให้ความผิ ดพล าดหรือเรื่องในอดีตมาทำให้ความสุขในอนาคตจางไป แต่จะเก็บมันมาเป็นบทเรียนเพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคตต่างหากล่ะ

7. ให้เกียรติคนรัก

ในช่วงวัยรุ่น เป็นธรรมดา ๆ ที่หนุ่ม ๆ จะให้เวลาส่วนใหญ่ในการตามจี บ สาว ๆ ผู้ชายต่างตระหนักถึงความสำคัญในการใช้เวลาดูแลใส่ใจ ด้วยความเสมอต้นเสมอปลาย แต่สำหรับหนุ่มบางคนนั้นไม่เคยตระหนักถึงความสำคัญข้อนี้เลย พวกเขาละเลยการดูแลคนรัก และทั้งยังคงสนุกกับการตามจี บสาว ๆ คนใหม่

ฉะนั้น คนที่โตพอ ลูกผู้ชายตัวจริง จะไม่สนใจกับการมีรักซ้อน หรือการจี บ สาวคนอื่น ๆ เพื่อทำให้ตัวเองดูเท่ห์ เพราะไม่ใช่วิธีของหนุ่ม ๆ ที่โตแล้ว

แต่เขาจะใช้เวลาคิดถึงอนาคตการใช้ชีวิตร่วมกันต่างหาก โดยการตระหนักถึงกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่ความสุขของชีวิตคู่ รวมทั้งการดูแลให้สม่ำเสมอ และอยู่เคียงข้างกันตลอดไป

8. ดริ๊งให้เหมาะสม

นาน ๆ ทีจะได้สนุกสนาน ดื่ มในปริมาณที่พอดีจะส่งผลดีต่อสุขภาพของหนุ่ม ๆ แต่ที่ปัญหามันเกิดเพราะหนุ่ม ๆ ส่วนใหญ่ไม่เข้าใจการดื่ม “พอเหมาะพอควร” เมื่อคุณไปบาร์ลองสังเกตุแต่ละห้องแต่ละโต๊ะดูสิ คุณจะสามารถแยกเด็ กหนุ่มกับผู้ใหญ่ออกจากกันได้เลย

(หมายถึงการวางตัว วุฒิภาวะของผู้ชาย) ผู้ชายที่โตแล้วมักจะไปสนุกสนานกับเพื่อน กับครอบครัว คนที่สนิท และมีการดื่มเพียงเล็กน้อยแค่นั้น และยังโชว์ความเป็นผู้ชายที่น่าเคารพได้อีกด้วย เรื่องเช่นนี้เขาไม่ได้ดูที่อายุกันนะ แต่ดูที่การวางตัวอย่ างเหมาะสมต่างหากล่ะ

ุ9. เปิดกว้างการสนทนา

การพูดคุยนั้นไม่ใช่เรื่องย ากที่คนทั่วไปคิดกัน ผู้ชายทั่ว ๆ ไปสามารถพูดคุยได้เฉพาะเรื่องที่เขาสนใจเท่านั้น หากเป็นเรื่องอื่นก็แทบจะไม่สนใจหรือไม่คุยไปแบบเนียน ๆ แต่หนุ่ม ๆ ที่โตแล้วเขาจะเรียนรู้การรักษาบทสนทนาให้เป็นไปอย่ างราบรื่น แม้ว่าคุณจะไม่ได้ชื่นชอบในเรื่องที่กำลังคุยก็ตาม

และก็ไม่จำเป็นที่จะต้องโบกมือลาคู่สนทนา ขอแค่คุณเปิดใจกว้างรับฟัง และปล่อยให้บทสนทนาเป็นไปอย่ างธรรมชาติ แม้ว่าคุณจะไม่ได้มีความรู้ไปทุกเรื่องบนโลกใบนี้ แต่คุณก็สามารถแสดงความสนใจและเอ็นจอยไปกับมันได้

มันอาจจะเป็นข้อดีก็ได้ที่ช่วยเพิ่มพูนความรู้ให้กับตัวคุณด้วย และที่สำคัญมันยังทำให้บทสนทนาไปต่อได้อย่ างราบรื่นนี่ละที่ผู้ใหญ่มือโปรเขาทำกัน

10. อย่ ากังวลกับอายุมากไป

ผู้ชายทุกคนล้วนโตตามวัย แต่ไม่ใช่ทุกคนที่มีความเป็นผู้ใหญ่ ผู้ชายบางคนพย าย ามที่จะรักษาความเป็นหนุ่มไว้ตลอดไป พฤติก ร ร มเหล่านี้เราสังเกตได้จาก คำพูด ท่าทาง

การแต่งกาย และสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่ ก็คือการทำทุกอย่ างเพื่อจะหยุดยั้งอายุที่มากของตน แต่การทำเช่นนี้ไม่ได้จะทำให้เขามีอายุยืนตลอดหรอกนะ

ลองมองในความเป็นจริงกัน ไม่มีอะไรผิดหรอกที่คนเราจะอายุมากขึ้นตามวัย ผู้ชายบางคนยิ่งอายุมาก ยิ่งดูดี ยิ่งเท่ห์ด้วยซ้ำ ฉะนั้น คุณผู้ชายทั้งหลายจงแสดงออกตามวัยดีกว่า

เมื่อเราโตมากขึ้นการอยู่กับข้อบังคั บและการควบคุมต่าง ๆ จะน้อยลง ทำให้เราสามารถทำอะไรได้ง่ายขึ้นด้วยความที่โตแล้ว ต่างจากตอนเด็ ก ๆ ฉะนั้น แมนตัวจริงต้องแสดงออกให้เหมาะสมกับอายุของตนเอง และใช้ชีวิตเหมือนทุกวันเป็นวันสุดท้ายของชีวิต อย่ าไปกลัวสิ่งต่างๆที่เข้ามา แต่ให้คิดว่าเราได้ใช้ชีวิตคุ้มหรือเปล่า

ขอขอบคุณ pepperrr