ข้อคิดคติเตือนใจ

ใช้เงินให้ถูกทาง ประหยัดให้เป็น ก็มีเงินเก็บหลักแสนได้

คนเราทุกคนใฝ่ฝันว่าจะเก็บเงินให้ได้มาก ๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่ากว่าจะเก็บเงินได้สักก้อน

ช่างเป็นเรื่องที่ยากเหลือเกิน บางคนแทบคิดไม่ออกเลยว่าจะใช้วิธีใด จึงจะเป็นไปได้

และใครที่กำลังเจอปัญหาแบบนี้อยู่ก็อย่ าเพิ่งท้อนะ เพราะเรามีเคล็ดลับดี ๆ มาแนะนำ

และนี่คือ 11 วิ ธีเก็บเงินแสนภายใน 1 ปี รับรองว่าจะช่วยให้เข้าใกล้ความฝัน มีเงินแสนได้แน่ๆ

1. มาดื่มกาแฟชง

รู้มั้ยว่าการดื่มกาแฟทุกวันเป็นปัญหาที่คอยกวนใจการเก็บเงินของหลายคนได้

แบบไม่น่าเชื่อ ลองคิดดูถ้าเราดื่มกาแฟแบรนด์ดัง ที่ข า ยกันอยู่แก้วละประมาณ 120 บาท

ในทุกวัน คือใน 1 ปี ต้องเสียเงินไปถึง 43,800 บาท หรือเกือบครึ่งแสนเลยทีเดียว

เพราะงั้น วิธีแก้ง่าย ๆ เลยก็อาจจะลองเปลี่ยนมาดื่ มกาแฟที่มีราคาถูกลง

เช่น แก้วละประมาณ 30 บาทก็จะช่วยให้เรามีเงินเก็บเพิ่มถึงปีละ 32,850 บาท

หรือหากหันมาชงเองที่มีราคาแค่ ซองละประมาณ 5 บ า ท

ยิ่งช่วยประหยัด ได้อีกถึงปีละ 41,975 บาทเชียวนะ

2. เก็บเงินหยอดกระปุกวัน ละ 275 บ า ท

เมื่อเราอยากมีเงินแสนใน 1 ปี ก็คิดง่าย ๆ เลย คือเราต้องเก็บเงินให้ได้อย่ างน้อยวันละ 275 บาท

และวิธีง่าย ๆ อย่างหยอดเงินใส่กระปุกนี่แหละ ที่เห็นผลได้ดีเลย

แต่ต้องอาศัยความมีวินัยในตัวเองด้วยหมั่นออมเป็นประจำทุกวัน

หากทำได้แบบนี้ครบปีเมื่อไหร่ แคะกระปุกออกมาได้เป็นเ ศ ร ษ ฐีนอนนับเงินสบายเลย

3. ทำอาหารกินเอง

อีกวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยเพิ่มเงินในกระเป๋าได้ดีแบบไม่น่าเชื่อก็คือการ ทำอาหารกินเอง

หรือ กินข้าวที่บ้านให้มากขึ้นเพราะรู้ไหมว่า ถ้าเราเลือกไปกินอาหารตามร้านข้างนอกอย่ างน้อย

ก็มื้อละ 40-100 บาทแล้ว คิดดูหากกิน 3 มื้อ รวมเป็นเงินวันละ 120-300 บ า ทเลยนะ

ต่างกันเยอะเลย กับการเลือกทำอาหารกินเองรวมทั้งวันอาจจะเ สียเงินไม่ถึง 100 บาท

ด้วยซ้ำประหยัดได้วันละเป็นร้อยเลย หากทำได้ครบปี นี่ประหยัดได้กว่า 30,000 บาท

รวมถึงคนที่ชอบไปกินร้านหรู ๆ ทุกสัปดาห์ด้วยเพราะไปทีนึงก็หมดเงินไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท

สมมติไปทุกสุดสัปดาห์เดือนนึงนี่จ่ายไปไม่ต่ำกว่า 4,000-5,000 บาทซึ่งถ้าลดได้หัน

มาทำเองที่บ้านปีหนึ่ง ประหยัดเงินได้เกือบ 50,000 บาทเลยนะ

4. หาแหล่งพักเงินที่ดีกว่า ฝากออมทรัพย์

เพราะวิธีเก็บเงินด้วยการฝากบัญชีออมทรัพย์แค่อย่างเดียวนั้นอาจไม่เพียงพอ

และให้ผลตอบแทน ที่น้อยเกินไปเพราะฉะนั้นการนำเงินไปกระจายลงทุน ในสินทรัพย์อื่น ๆ

จึงเป็นทางเลือ กที่น่าสนใจกว่าเช่น ซื้อกองทุนรวมที่ให้ผลตอบแทนราว 5-15เปอร์เซน

และซึ่งผลตอบแทนนั้น ที่เราได้รับมันก็ขึ้นอยู่กับนโยบายการล ง ทุ น

ของกองทุนนั้น ๆ ตามความเสี่ ย งที่เราสามารถยอมรับได้ คือยิ่งเสี่ ยงมากผลตอบแทนที่มีโอกาสได้

ก็ยิ่งมาก การเลือ กลงทุ นในกองทุนรวมนอกจากจะมีข้อดี ไม่ต้องมาคอยจัดการเอง

เพราะมีมืออาชีพมาบริหารจัดการความเสี่ยงให้เรียบร้อยในกองทุน บางประเภท

เช่น กองทุน RMF หรือ LTF ยังให้สิทธิประโยชน์สามารถนำเ งินไปลดหย่อนภาษีได้อีก

จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับใครที่ฐานเงินเดือนถึงเกณฑ์ต้องเสี ยภาษีนั่นเอง

5. ฝากประจำเดือนละ 8,300

ใครที่ขี้เกียจต้องมาคอยหยอดกระปุก อาจจะเลือกเก็บเป็นรายเดือน และหักเงินเดือน

ที่ได้เข้าบัญชีฝากประจำแบบ อัตโนมัติไปเลย เป็นเหมือนการบังคับตัวเองให้มีวินัยการออม

ที่ได้ผลดีมากวิธีหนึ่ง โดยเงินขั้นต่ำที่ออมควรอยู่ที่ 8,300 บาท/เดือน

เพราะเมื่อรวมกับด อกเบี้ยของบัญชีฝากประจำ ที่ได้รับราว 1-2.5 เปอร์เซนจะทำให้

เมื่อฝากครบปีเราจะมีเงินเก็บครบแสนได้ โดยการออมเงินผ่านบัญชีฝากประจำนั้น

เราสามารถเลือ กได้ทั้งแบบที่ไม่ต้องฝากเท่า ๆกันทุกเดือนสามารถเติมเงิน ในแต่ละเดือนได้เรื่อย ๆ

ซึ่งปกติแล้ว จะเป็นการฝากประจำ 3 เดือน, 6 เดือน 12 เดือน แต่ดอกเบี้ยที่ได้รับ

จะโดนหักภาษี 15 เปอร์เซน ส่วนใคร ที่คิดว่าตัวเองมีวินัยมากพอก็อาจจะฝากประจำแบบปลอดภ าษี

ที่ได้ดอกเบี้ยสูงกว่าซึ่งจะมีระยะเวลาฝาก 24 เดือนขึ้นไป รวมถึงต้องฝากจำนวนเงินเท่า ๆ กัน

ในทุกเดือนด้วย และใครที่สะดวกแบบใด ก็เลือกได้ต ามความเหมาะสม ของตัวเองได้นะ

6. หาอาชีพเสริมเพิ่มร ายได้

ถ้าเราต้องการอยากมีเงินเก็บเพิ่มไว ๆ แน่นอนว่างานประจำอย่ างเดียวอาจไม่พอ

ควรต้องมองหาช่องทางสร้างรายได้อื่น ๆ ด้วยอย่ างหาร ายได้เสริมจากสิ่งที่ตัวเองถนัด

ไม่ว่าจะเป็นงานฝีมือรับแปลงานเขียนบทความ ถ่ายรูปหรือขับรถส่งอาหาร

เพราะเป็นการเพิ่มร ายได้โดยที่ไม่ต้องควักเงินทุนหรือกลัวเจ๊ง แต่หากเกิดใครมีทำเลดี ๆ

กับมีฝีมือทำอาหารอยู่แล้วละก็อาจจะลองเปิดร้านทำอาหารขาย สร้างร า ยได้อีกทาง

7. การเลิกบุ ห รี่

เลิกสูบบุ ห รี่นั้นนอ กจากจะทำร้ า ยสุขภาพยังทำล า ยเ งิ นในกระเป๋าเราอีกด้วย

เพราะเต็มไปด้วยค่าใช้จ่ายมากมายเอาง่าย ๆ สมมติเฉลี่ยแล้วเราสูบบุห รี่สัปดาห์ละ 4 ซอง

ราคาซองละ 80 บาทหมายถึงคิดเป็นค่าใช้จ่ายอย่ างน้อย ๆ ปีละ 15,360 บาทเลยนะ

ซึ่งบางคนนั้น อาจจะสู บมากกว่านี้ก็คูณเป็นตัวเ งินที่มากเข้าไปอีกไม่หมดแค่นั้น

การสูบบุ ห รี่เป็นประจำยังต ามมาด้วยโรคภั ยไข้เ จ็ บต่าง ๆ ซึ่งบอ กเลยว่าถ้าเกิดเจ็ บป่วย

หรือเป็นอะไรขึ้นมาจากการสูบบุ ห รี่ค่าใช้จ่ายสำหรับการรักษ าพย าบาลและดูแลตัวเอง

ไม่ใช่เงิ นจำนวนน้อย ๆ เลยเ สียเป็นหลักแสนหลักล้านก็มีให้เห็นมาแล้วเพราะฉะนั้น

ใครที่สูบ บุห รี่อยู่หากลดได้ก็ขอให้ลดเถอะ หรือหักดิบเลิกสูบไปเลยก็ได้ยิ่งดี

8. หันมาเที่ยวในประเทศแทนต่างประเท ศ

ใจหนึ่งก็อย ากเที่ยวแต่อีกใจก็อย ากเก็บเ งิ นยิ่งเวลาเห็นเพื่อน ๆ โพสต์รูปไปเที่ยวต่างประเท ศแล้วก็ยิ่งอย ากไป

แบบนี้จะทำยังไงดีเพราะหากเลือกไปเที่ยว ก็ไม่มีเงิ นเก็บ และถ้าเจอปัญหาแบบนี้

ก็อาจจะลองหันมาเที่ยวในประเทศแทน แบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ เพราะการเที่ยวในประเทศเรา

ก็ประหยัดเงินได้เยอะเลย และสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ ในเมืองไทย ก็มีให้เลือกมากมาย

ไม่แพ้เมืองนอกเช่นกันไว้เก็บเงินได้เยอะ ๆ แล้ว ก็ค่อยไปเที่ยวต่างประเทศดู ก็ยังไม่สาย

9. งดเที่ยวสังสรรค์

ถ้าใครเป็นคนติดเที่ยวติดเพื่อน ในวันหยุดสุดสัปดาห์ทีไรต้องออ กไปสังสรรค์ให้ได้ละก็

ขอบอ กเลยว่าหากงดได้ ก็ทำเถอะเพ ร า ะจะช่วย ให้ปีนึงเราเหลือเ งิน

เก็บในบัญชีอ ย่ างน้อย ๆ ปีละกว่า 24,000 บ า ทกันเลย

เพร าะหากเที่ยวแค่สัปดาห์ละครั้ง ค่าใช้จ่ายต่อครั้งไม่ต่ำกว่า 500 บาทแน่ๆ

10. ของฟุ่มเฟือยไม่จำเป็นอย่ าซื้ อ

สินค้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ นั้นไม่ว่าจะเป็นสมาร์ตโฟน แท็บเล็ต นาฬิกา หูฟัง

เหล่านี้ก็ไม่ใช่ถูก ๆ และแต่ละชิ้นนั้นไม่ต่ำกว่าหลักหมื่นทำให้เราเสี ยเ งิ นโดยใช่เหตุ

และทั้งที่บางที ไม่จำเป็นต้องใช้รุ่นที่มีออปชั่นมากขนาดนั้นก็ได้

แต่หลายๆ คนก็เลือกที่จะซื้อไว้ก่อน เพราะเพียงเห็นว่าเป็นรุ่นออ กใหม่

แต่บางทีของเก่ายังผ่อนไม่หมดเลยเห็นของใหม่มา ก็ซื้อใหม่อีกแล้วเนี่ย

หนี้ก็ทบหนี้เข้าไปอีกแนะนำเลยว่าถ้าตัดเรื่องพวกนี้ออกไปได้

แล้วเลือ กซื้ อแต่สิ่งที่จำเป็นต้องใช้จริง ๆ รับรองว่าช่วยเพิ่มเงินเก็บใน

แต่ละปีได้เกือบแสนเชียวนะ และไม่ต้องเป็นหนี้เป็นสินอีก

11. จำกัดการซื้อเสื้อผ้า หรือพวก เครื่องสำอางไว้หน่อย

ข้อนี้บอกสาว ๆ เลยว่าเสื้อผ้ารองเท้าเครื่องสำอาง กระเป๋า และอีกสารพัด

แฟชั่นเป็นตัวดูดเ งินชั้นดีเลยยิ่งเดี๋ยวนี้มีช้อปออนไลน์ ยิ่งซื้ อยิ่งจ่ายง่ายเข้าไปอีก

เคยนับกันบ้างไหมว่า ในแต่ละเดือนเราใช้เ งิ นช้อปปิ้งกับสินค้าเหล่านี้

ไปมากแค่ไหน บางคนถึงจะซื้ อสินค้าทีละน้อย แต่บ่อย ๆ รวม ๆ

กันเข้าคุณอาจจะตกใจกับจำนวนเงินที่จ่ายไปหลายพัน หรือเกือบหมื่นต่อเดือนได้เหมือนกัน