ข้อคิดคติเตือนใจ

4 ข้อคิดสอนลูก เพื่อให้เขาฉลาด และอยู่เป็นในสังคม

1.สอนลูก ให้ทันสถานการณ์

ในที่นี้ไม่ว่าจะเป็นภั ย พิ บั ติต่างๆ น้ำท่ว มแผ่นดิ นไหวหรือโดนทำร้ ายร่ างก าย

จริง ๆ แล้วโอกาสที่จะเกิด มันอาจจะน้อยอยู่นั่นแหละ แต่การที่เรา

ให้เขาได้เตรียมตัว หรือเอาตัวรอดในทุกสถานการณ์ ก็จะทำให้ลูกของเรา

กล้าแกร่ง และได้เปรียบเด็ กๆ ในรุ่นเดียวกัน สามารถสอนลูกได้ล่วงหน้า

ว่าเขาควรทำตัวอย่ างไรเมื่อเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้น เช่น หากเกิดพลัดหลง

กับพ่อแม่อาจจะให้เขา มองหาคนที่น่าจะช่วยเหลือได้

2.สอนให้แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเป็น

แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไม่ว่าจะเป็น ซ่ อมของที่ชำรุ ดหรือรับมือกับสถานการณ์

ที่ไม่ชอบ นับเป็นทักษะติดตัวที่ แสดงถึงการมีไหวพริบที่ดี และถ้า

เด็ กคนใด ที่มีทักษะนี้แน่นอนว่า พวกเขาจะสามารถเอาตัวรอดได้ไม่ย ากเลย

ยกตัวอย่ างเช่น เขาเจอกับปัญหาจะแก้ไขปัญหานั้นอย่ างไรแล้วคุณพ่อคุณแม่

ช่วยลูกให้ฝึกทักษะนี้ได้ โดยการลองให้ลูกรู้จัก จินตนาการ จำลองเป็นเก ม

ก็ได้ สนุกไม่แพ้กันเลยนะ อาจเริ่มจากอะไรง่าย ๆ เช่น ตั้งคำถามให้ชวนคิด

ว่าหากวันนี้นั้น เขาลืมนำการบ้านมาส่งครู เขาจะแก้ปัญหาได้ยังไงบ้าง

เชื่อว่าปัญหานี้ เมื่อก่อนตอนที่พ่อแม่เป็นเด็ ก ๆ ก็อาจจะเคยเผชิญมาแล้ว

หากเป็นตอนนั้น ก็คงจะโด นครูทำโท ษใช่มั้ยล่ะ เราก็ลองให้เขาใช้จินตนาการว่า

ในยุคของของเค้า จะแก้ปัญหาแบบไหน อาจจะขอโทรหาพ่อแม่ให้ นำการบ้านมาให้

หรือขอเลื่อนส่ง อีกอย่างคือคุยกับครูตรง ๆ ไปเลย

3.สอนปรับตัวเข้ากับสังคมให้ได้

คนเรายิ่งโตสังคมก็ยิ่งกว้างตามไปด้วย พวกเขาเองก็เช่นกัน

ไม่ว่าจะเป็นการย้ายโรงเรียน การทำกิจก รร มต่าง ๆ การไปเรียนที่สถาบัน

กวดวิชา พ่อแม่ต้องเลี้ยงลูกให้รู้จักความยืดหยุ่น ให้รับรู้ว่าโลกข้างนอก

มีผู้คนมากมายหลายรูปแบบ ไม่มีใครที่เราชอบ หรือชอบเราตลอดเวลา

อย่ าดีจนเกินไปอยู่ตรงไหนแล้วรู้สึกอึดอัด ก็ถอยออกมา

ตอนนี้เขาอาจจะยังไม่ค่อยเข้าใจมากนัก ว่ามันคืออะไร ฉะนั้น จงพูดคุยกับลูกบ่อย ๆ

ถามเขาว่าวันนี้เป็นไงบ้าง สนุกไหม คุยกับคุณครูของลูกบ้าง

แลกเปลี่ยนกันและกันแล้วเราจะได้รู้จักลูกในมุมที่ต่างออกไป

4.สอนให้ลูกรู้ ว่ามีอะไรก็บอกพ่อแม่ได้ทุกอย่ างนะ

สิ่งสำคัญในการเอาตัวรอด ของพวกเขาในยุคนี้ คือการเปิดใจพูดคุยกับครอบครัว

เพราะพ่อแม่ลูก ต้องสามารถบอก เล่า กล้าพูดกล้าแสดงออก

ในสิ่งที่เผชิญมา ถ้ารู้สึกอึดอัดก็ต้องมาคุยกันแต่กว่าลูกของเรา

จะไปถึงจุดนั้น แน่นอนว่าความสัมพันธ์ความใกล้ชิดของคนในครอบครัว

ก็ต้องเป็นตัวช่วยขับเคลื่อนที่ดี ลองนึกภาพตามว่า หากลูกเจอเพื่อนแกล้งซ้ำๆ

แต่ด้วยความที่กลั วแม่ดุ มุมมองของเด็ กเขาอาจจะคิดว่าเค้าเป็นฝ่ายผิด

เลยยอมให้เพื่อนแก ล้ง จึงไม่กล้าบอกพ่อแม่