ข้อคิดคติเตือนใจ

10 แนวคิดคนทำงาน แม้เราเงินเดือนจะไม่เยอะ แต่ก็มีความสุขได้

งานทุกวันนี้ก็ไม่ได้หากันง่ายๆ และหลายคน เลยถือคติ ‘ไม่เลือกงาน ไม่ย ากจน’ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่คิดแบบนั้น

หลายคนที่รู้สึกลำบากใจ โดยเฉพาะเรื่องของเงิน ที่แบบว่าทำไม๊…ทำไม เงินเดื อนเรามันน้อยนิดจัง

ทั้งที่จบ ป.ตรีมาเหมือนกัน ปัญหามันก็ไม่ได้เกิดที่เงินเดือนเป็นหลักหรอก บางครั้งก็มาจากวิธีคิดของเรานี่แหละ

ที่เราไปยึดติด เพียงเปลือกมากไป และเงินเดือนเพียงหลักพันทำไงอ่ะ จึงจะมีชีวิตดี๊ดี เหมือนคนอื่นเขานะ

1. ถึงจะออกนอกห้องบ่อยๆ

มันก็ไม่ได้แปลว่า เราเองจะไม่มีเงินเก็บ จริงอยู่ว่าออกไปนอกบ้ าน

นอกห้อง ก็เท่ากับว่าเราพร้อมจะจ่ายตังค์แล้ว อย่าเหนียวกับตัวเองไปหน่อยเลยน่า

หากวันไหนไม่มีตังค์ ไม่จำเป็นต้องออกไปใช้เงินมากก็ได้หรอก หากิจ ก รรมง่ายๆ

เช่นออกไปวิ่ง, ออกไปเดินเล่น, ออกไปปั่นจักรย าน เที่ยวเล่นอย่าติดนิสัย

อยู่ในห้องบ่อยๆ ออกไปทำอะไรข้างนอกบ้าง ก า ยจิตใจจะได้แจ่มใส ตื่นตัวอยู่เสมอ

2. แม้ของทุกอย่างที่มีอยู่ มันจะ ไม่แพง ไม่หรู

แต่ว่ามันก็ครบครัน และที่พัก ก็มี การเดินทางก็ไม่ลำบากมาก ได้เข้าสังคม ตามโอกาสที่ควร

และได้เพื่อนร่วมงานที่ดี วันหยุดก็มีมาก เ จ็ บ ป่ ว ยก็มีค่ารั ก ษ า ฯลฯ สิ่งรอบตัวเรา

มีครบมากเพียงนี้แล้ว มันก็ไม่จำเป็นมากนักหรอก ที่จะต้องดิ้นรนให้เกินฐานะ พอใจกับสิ่งที่มี แล้วจะพบความสุขที่แท้จริง

3. สร้างมิตรภาพ กับคนรอบตัว

เพราะความสัมพันธ์ที่ดีต่อเพื่อนบ้ าน เพื่อนร่วมงาน หรือแม้แต่ใครก็ตาม ที่อยู่ใกล้ๆ เรา

และนอกจากเราจะได้รับการแ บ่ ง ปั นของกินของใช้ อ า ห า ร โอกาสดีๆ

และอันอื่นๆ ในย ามที่เราเดื อดร้อนขึ้นมาเช่น จู่ๆ ก็ไม่สบา ยหนักพวกเขาอาจช่วยเรา

ผ่ อ นหนักเป็นเบา ช่วยดูแลเรา มันก็ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่า ความสัมพันธ์มัน มาพร้อมกับผลประโยชน์หรือเปล่า

แต่เราเอง ก็เลือกได้ว่าจะบาลานซ์ให้เรื่องไหนมาเป็นสิ่งแรก หากคุณเลือกผลประโยชน์นำหน้า

คุณเองอาจจะหาความจริงใจไม่ได้เลย (เชื่อเถอะว่า ร วยเพื่อน มันดีกว่ารวยเงิน เชื่อสิ!)

4. โชคดีแล้ว ที่มีงาน มีเงิน เลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้

หากคุณกำลังท้อ รู้สึกว่างานที่ทำมันด้ อ ยค่า กระนั้นคุณลองมอง ในมุมกลับว่า มันดีแค่ไหนแล้ว

ที่มีงานทำ เพราะบางคนเขายังไม่มี โอกาสที่ดีแบบเราเลยนะ ฉะนั้นเราโชคดีกว่าใครอีกมากมายนะ รู้มั้ย!

5. ให้รางวั ลตัวเอง ให้ตัวเองได้พอชื่นใจ

ชอบพอที่จะซื้ ออะไรให้กับตัวเองไม่จำเป็นต้องอด แต่จงตั้งเงื่อนไข

อะไรให้กับตัวเองเกี่ยวกับงาน เช่น ส่งงานให้ทันกำหนดการ ทำย อดได้ตามเป้า

หากสิ่งที่คิดไว้สำเร็จจริง นอกจากจะได้แร งจูงใจสำหรับการทำงาน

และมันยังเป็นการเบร คตัวเอง ไม่ให้จ่ายอะไรที่ไม่จำเป็นโดยง่ายอีกด้วยนะ

6. อย่าจำกั ดสกิ ลที่ตัวเองมี

เราเองก็อย่าไปคิดว่าเรา มีความสามารถเท่านี้ และทำงานแค่นี้ ฉะนั้นแล้ว คุณต้องเพิ่มมู ลค่าให้กับตัวเอง

โดยการอัพส กิ ล อย่างการเก็บเงินไปสอบ วั ดระดับภาษ าให้ผ่านเพื่อนำผลส อ บนั้น

ไปยื่น ปรับเงินเดือน หรือไม่ก็หาร ายได้เสริม จากทักษะที่ตัวเองถนัด

7. อ า หารมื้อหลัก

ก็คือทานแบบถูก หรือฟ รีก็ได้ ไม่จำเป็นต้องอร่อยมาก ขอให้เน้นอิ่มไว้ เช่น อ า ห า รที่บ้ าน

อ าหารในโรงอ า ห า รที่ทำงาน เพราะว่าคุณเองก็จะได้มีเงินเก็บขึ้นไปอีก ทำอะไรก็ได้

แต่ก็อย่าลืมคำนึงถึงสุ ข ภ า พเอาไว้ด้วย และอย่าทานของที่ไม่มีประโยชน์

8. ที่อยู่อาศัย

ประหยั ดได้ยิ่งดี เพราะหลายคนต้องหั กเงินเดือน ครึ่งหนึ่งเป็นค่าเช่ าที่พัก

และหากคุณอยู่บ้ านหรือ ที่ทำงานคุณ ให้ที่พั กฟ รี คุณเองไม่ต้องอายคนอื่นเลยว่า

มันจะเป็นการเก าะใครกิน คุณควรมาโฟกัสที่การเก็บเงินดีกว่า เพราะยิ่งเราจ่ายให้ค่าที่พัก

ได้น้อยแค่ไหน ก็มีโอกาสเป็นนายตัวเองได้ไว เพราะเราประหยัดและมีเงินเหลือไว้ใช้

9. อย่าบ่นไป

ถ้าต้องเดินทางด้วยความลำบาก เมื่อคิดแล้วว่าวิธีใดก็ปลอดภั ยเหมือนกัน

ให้มองหาการเดินทาง วิธีที่ประหยัดเข้าไว้ เช่น เดินจากที่พักไปออฟฟิศที่ใกล้ๆ

ขึ้นรถโดยส า รประจำทาง ขี่มอเตอร์ไซค์ ไปทำงานจังหวัดใกล้ๆ ก็ได้

และคุณเองก็ไม่จำเป็นต้องใช้วิธี สะดวกสบายมาก ถ้าสุดท้ายแล้ว ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่าย

ในส่วนของพาหนะ ตั้งมากมายรองจากค่าที่พัก นั่นเอง

10. โอกาส ทางสังคมไม่จำเป็นต้องแพ งเสมอ

เพราะการประหยัดนั้น ไม่ได้ให้อดมื้อกินมื้อ ไม่ได้หมายถึงงดเข้าสังคม เพราะการเข้าสังคม

มันก็ยังเป็นสิ่งที่จำเป็น ในการทำงาน เพราะจะทำให้เราเข้าใจ เพื่อนร่วมงาน

ทำงานได้ลื่นไหล ไม่จริงเสมอไปว่า มันจะต้องเป็นค่าใช้จ่ายที่แพง

มันคือค่าใช้จ่ายที่แลกกับ มิตรภาพและประสิทธิภาพสำหรับทำงาน ให้ดีขึ้น และเราก็เลือก

ได้ว่าจะเข้าสังคมแบบใด ถึงจะเหมาะกับเรา เอาที่คุณสบายใจ และไม่สร้างความขั ดแย้ งก็พอแล้ว