5 เรื่อง ที่สื่อได้ว่าคนขิ้เกียจ พวกเขามักประสบความสำเร็จ

เดี๋ยวนี้อะไรๆ มันก็ไม่เหมือนเดิม เปลี่ยนไปซะหมด และในเรื่องของความขิ้เกี ยจนั้น

มันก็มักคือ สิ่งที่ทุกคนมีอยู่ในตัวอยู่แล้ว มีมากมีน้อยแล้วแต่คน ต่างกันไป

และหลายๆ คนมองว่าความขิ้เกี ยจเนี่ย คือสิ่งที่เล ว ร้ า ยที่จะพาชีวิตลงเห ว

แต่ว่านะ มันจะเกิดอะไรขึ้นนะ ถ้าเรากำลังจะบอกว่าความขิ้เกี ยจ ของคนนั้น

ใครจะรู้ล่ะว่า มันคือส่วนหนึ่ง ที่ทำให้คนเรา อาจจะประสบความสำเร็จได้ในอนาคตเช่นกัน

อย่าง C h a rles Darwin ที่เขาเป็นคนขิ้เกี ยจ ประมาณว่า เขาขิ้เกี ยจจนครู และพ่อแม่

รู้สึกทุ กข์ท ร ม า นใจเพราะต้องคอยเคี่ ยวเข็ญ เขาอย่างหนัก เพื่อจะให้ไปโรงเรียน

และยังมีอีกคือ บ่อยครั้งที่เขาหลับในห้องเรียน อีกทั้งการบ้ า นก็ยังไม่ทำ และแม้ว่าเขาจะกลายเป็นนักวิทย า ศาสตร์

หรือนักเขียน แต่ผลงานแต่ละอย่างนั้นใช้เวลานานจริงๆ กว่าจะเสร็จได้ Win s t o n Churc h i ll

เป็นคนที่มีคะแนนเมื่อสมัยเรียน ที่ได้แ ย่ มาก เพราะตั้งแต่อนุบาล ถึงมัธยมปลาย เขาไม่สามารถ

เข้าเรียนต่อมหาลัยได้ ไม่ชอบทำกิจกร ร มอะไร ไม่ชอบเล่นกีฬาสักอย่าง แต่สิ่งที่ชอบ คือการนั่งเฉย ๆ

แล้วสุดท้ายนั้น เขากลายเป็นนักก ารเมื องผู้ยิ่งใหญ่ซะงั้น หน้าที่หลักๆ ของเขาก็คือ การนั่งอยู่บนเก้าอี้

ที่เขาชอบอย่างเดียว Mendeleev , Newton ,E i n s t e i n, Picasso  อีกมากมาย

เพราะถ้าเราดูจากรายชื่อแล้วเ รามั่นใจเลยว่า คุณต้องมีข้อสงสั ยอยู่ในใจแน่นอน แต่อย่างไรซะ

พวกเขาก็ทำให้เห็นกันแล้วว่า คนขิ้เกี ยจสามารถประสบความสำเร็จในชีวิตได้เหมือนกัน และนี่แหละเป็นเหตุผล

ว่าคนขิ้เกี ยจทำไม จึงมักจะมีแนวโน้มจะประสบความสำเร็จกว่าคนปกติ ที่ขยันขันแข็งด้วยซ้ำ

1. หลายๆ คนนั้นก็ประสบปัญหา การพักผ่อนไม่เพียงพอบางคนใช้พลั ง งานแต่ละวันมากไป

แต่ไม่รู้ว่า ตัวเองควรที่จะพักผ่อ นตอนไหน แต่สำหรับคนขิ้เกี ยจพวกเขารู้ดี ว่าเมื่อไหร่

ที่พวกเขาเหนื่ อยตอนไหนที่พวกเขาอย า กนอน เพราะการเป็นคนขิ้เกียจ ที่ชอบการพักผ่อน

มันจึงทำให้ร่ า ง ก า ยของพวกเขาแข็งแร งเมื่อเทียบกับคนขยันอย่างมากๆ

2.เพราะคนขิ้เกี ยจไม่ได้แปลว่าไม่ฉลาด กลับกันคนที่น่าจับตามองที่สุด คือคนขิ้เกี ยจ ที่ฉลาด

เพราะว่า ถ้าขิ้เกี ยจแล้วยังโ ง่ทีนี้คือจบเลย ขยันแต่ไม่ฉลาดก็จบเหมือนกัน

ถ้าขยันด้วยฉลาดด้วย ก็ถือว่าเป็นคนในอีกประเภท แต่ก็อย่างที่บอกไปว่า คนขิ้เกียจ

ที่ฉลาดนั้น น่าจับตามาอง เพราะว่าคนเหล่านี้ พวกเขาใช้สมอ งที่ดีของเขาทำทุกสิ่ง

ให้เร็วได้ทะนเวลา ด้วยขั้นตอนน้อยๆ ถ้าพูดง่ายๆ คือเขาจะหาวิธีที่ดี และง่ายที่สุดให้กับตัวเอง

ฉะนั้นแล้ว หากคุณต้องเลือกลูกน้องสักคน ให้คุณเลือกคนที่ขิ้เกี ยจ แต่ฉลาด เขาจะทำให้คุณสบายได้

3. พอมี Technology หรืออะไรใหม่ ๆ มา และอะไรที่สามารถช่วยให้ผู้คนทำงานได้รวดเร็ว

หรือช่วยทุ่นแร งเขาทั้งหลายจะรู้ไปหมด เพราะคนขิ้เกี ยจจะใช้งานมันได้เร็ว กว่าคนปกติด้วยซ้ำ

เพราะงั้นจึงไม่แปลกเลย ที่คุณจะเห็นว่าคนขิ้เกี ยจ เขาจะคอยจะหาสิ่งใหม่ ๆ มาทดล องตลอด

ที่เป็นแบบนั้น เพราะว่าเขากำลังหาทางที่จะสบาย ถ้าคุณอย า กสบาย ก็ทำตามเขา

แต่ถ้าคุณมีความคิดเช่นนั้น แปลว่าคุณมีแนวโน้มเป็นคนขิ้เกี ยจขึ้นมาแล้วล่ะสิ แต่ว่านะ มันอาจจะฟังดูแย้ งๆ กันหน่อย

กับยุคสมัยที่อะไร ก็ต้องไวไปหมด แม้การนั่งเฉย ๆ แบบคนขิ้เกี ยจมันอาจจะดูน่าเบื่ อไปสักหน่อย

และนี่มันคงเป็นวิธีการที่ดี สำหรับการพัฒนาจินตนาการของเขา และไอเดียที่ดีไปในตัวด้วย

4.คนขิ้เกี ยจกล้าได้กล้าเสี ย เพราะพวกเขามักมีโครงการ มีความคิดมากมายเต็มหัว

เพราะเขาว่างวัน ๆ ไม่ค่อยจะทำอะไร ไม่ต้องรับผิ ดชอบอะไรมากมาย ปล่อยความคิดให้มีขึ้น

แล้วก็ลอยออกมาจากสม อ งไปเฉย ๆ แต่คุณหารู้ไม่ สิ่งที่คนเหล่านี้คิดส่วนมากแล้ว

จะเป็นไอเดีย ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้อื่นอยู่เสมอ

5.ทำไมนะ คนขิ้เกี ยจส่วนมาก มักจะมีความคิดสร้างสรรค์ ไม่รู้ทำไม โดยเฉพาะถ้าต้องเข้าไปพัวพัน

ในเรื่องของการจัดการ จะยิ่งเห็นความคิดสร้างสรรค์ของเขาเสมอ นั่นก็เพราะว่า คนขิ้เกี ยจนั้น

พวกเขามักจะไม่ชอบอะไรที่ซับซ้อนเอาซะเลย ไม่ชอบเสียเวลา เพราะพวกเขาอย า กทำอะไรให้เสร็จเร็วๆ

จะได้เอาเวลา ไปทำอะไรอย่างอื่นที่ตัวเองชอบ ที่เป็นสไตล์ของตัวเอง สังเกตดูสิ พนักงานออฟฟิศ

ที่คุณอยู่ดูก็ได้ว่าพนักงานคนใดที่ว่าขิ้เกี ยจ พอโดนใช้งาน พวกเขาจะชอบหาทางลัด

ที่มีประสิทธิภาพ ได้ใกล้เหมือนๆ กัน คือเขาจะพย า ย ามทำทุกวิถีทาง ให้ชีวิตง่ายขึ้น สบายขึ้น

ขอขอบคุณ u nl o c km e n