ข้อคิดคติเตือนใจ

วิธีคิดของเศรษฐี ถึงเขาไม่ได้จบสูง แต่มีลูกน้องมากมาย

ชีวิตคนเรามันต่างกัน เกิดมาไม่เหมือนกัน มีต้นทุนในชีวิตที่แตกต่าง อย่างบางคนเกิดมาในบ้ าน

ที่ร่ำร วยมีกินมีใช้ไปตลอด และบางคนเกิดมาในบ้ านที่ย า ก จ นค้นแค้ น และสิ่งที่จะทำให้คนเรา

ประสบความสำเร็จ ก็คงไม่ใช่จุดเริ่มต้น ว่าใครมีมากกว่า หรือใครชีวิตดีมาตั้งแต่แรกหรอกนะ

แต่มันอยู่ที่ความพย าย าม อยู่ที่ความมุ่งมั่นของเรา ที่จะทำมันให้สำเร็จไปได้อย่างไร

อีกทั้งมุมมองและความคิดก็เป็นสิ่งสำคัญมาก ที่ทำให้ทางเดินของแต่ละคน ต่างกันออกไป

อย่างความคิดของพ่อค้ าคือเลือกกำไ รชิ้นละ 30 บาท แต่ข ายได้วันละ 100 ชิ้น

อีกความคิดนึง ที่เป็นความคิดของนักธุรกิจ เขาเลือกกำไ รชิ้นละ 5 บาท

แต่ข ายได้วันละ 1,000 ชิ้น และอีกความคิด คือความคิดของนักล ง ทุ น คือเลือกกำไ รชิ้นละ 1 บาท

แต่ข ายได้วันละ 100,000 ชิ้น การทำงานของพ่อค้ าเขาต้องอดทนตื่นเช้าๆ ก่อนใคร เพื่อไปซื้ อของ

เตรียมของ ตั้งแต่เช้ามืด ยืนลวกก๋วยเตี๋ยวแทบทั้งวัน เพื่อให้ได้กำไ รวันละ 3,000

และนักธุรกิจในการทำงานของเขานั้น จะยอมเสียเงินจ้างมืออาชี พมาลวกก๋วยเตี๋ยว

โดยที่ตัวเอง ไม่ต้องเหนื่อย ลดกำไ รลงวันละ 500- 1000 บาท ในการจ้างคน เพื่อที่

เขาจะได้มีเวลาหาช่ องทางเปิดสาข าที่ใหม่ต่อไปเรื่อยๆ และสุดท้าย การทำงานของนักล งทุ น

เขายอมที่จะทุ่มเงินมหาศ าลให้กับบุคลากร ที่มีความเป็นมืออาชี พ การตั้งค่าการทำงานต่างๆ

เสียเงินจ่ายค่าโฆ ษณ าเพื่อสร้างแบ ร นด์ให้คนอื่นได้รู้จักพร้อมทั้งสร้างมู ลค่าให้กับสินค้ าตัวเอง

จากนั้นก็ ขย ายสาขาไปทั่วโลก สำหรับชีวิตจริงพ่อค้ าต้องปิดร้าน ยอมขาดร ายได้

เพื่อที่จะพาลูกไปสมั ครเรียนหรือร่วมกิจกร ร มที่โรงเรียนกับลูก สำหรับวันสำคัญของลูก

แต่นักธุรกิจ พวกเขาจะสั่งงานผ่านผู้จั ดการสาขาคอยดูแลกิจก ารโดยรวมจะได้ไม่ต้องไปลงมือทำเอง

ฉะนั้นเขาก็มีเวลาว่างแต่ก็ยังต้องคอย ดูงานอยู่เรื่อยๆ สำหรับนักล ง ทุ น พวกเขาสามารถไปเที่ยว

ในที่ที่อย ากไป แต่ก็ยังมีเงินเข้าบั ญชีอยู่ตลอด เพราะมีทั้งระบบที่ดีและบุคลากรคุณภาพ

ที่ดูแลธุรกิจให้เสมอ จงจำไว้ว่า“ค น จ น ต้องออกไปทำงานทุกๆ วัน เพื่อแลกกับเงิน

แต่ขณะที่คนรวย พวกเขาแค่จ้างคนเก่งๆ มีความสามารถ ทำงานแทนเขาเพื่อหาเงินให้เขา”

มองไปรอบๆ ตัวดูสิ ในแวดวงธุรกิจจะรู้ว่ามหาเศ รษฐีหมื่นล้าน บางคนเขาจบแค่ ป.4 กลับมีลูกน้อง

เรียนสูง เป็นด็อ กเตอร์กันมากมาย รู้อย่างนี้แล้ว อย ากเปลี่ยนจากพ่อค้ าเป็นนักธุรกิจ

หรือเปลี่ยนจากนักธุรกิจเป็นนักล ง ทุ น มันก็ไม่ได้ย ากเกินไปสำหรับคุณหรอก

ไม่ต้องเปลี่ยนอาชีพ เพียงแค่เปลี่ยนความคิดตัวเองเท่านั้น ชีวิตก็เปลี่ยน และถ้าเรายังใช้ชีวิตเดิมๆ

อยู่กับอะไรเดิมๆ ชีวิตก็คงไม่เปลี่ยนไปจากเดิม มันก็จะวนซ้ำๆ อยู่

แต่ถ้าเราลองเริ่มต้นเปลี่ยนที่ความคิด เชื่อเลยว่า ชีวิตเราปลี่ยนแน่นอน

ขอขอบคุณ คุณ สิริทัศน์ ส ม เ ส งี่ ย ม