ข้อคิดคติเตือนใจ

10 วิธีเดินจากความฟุ่มเฟือย อย่าทำตัวให้เป็นภาระลูกหลาน

การเป็นหนี้ มัน ท ร ม า น ดังที่เขาว่ากันนั่นแหละ และการไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ

บ่อยครั้งที่เราพลาด ไม่ว่าจะเป็นจากเรื่องของการลงทุ น แต่ที่หนักคือการคือ หนี้ที่ฟุ่มเฟือยนี่แหละ

เช่นนี้ถือว่าใช้จ่ายเกินตัว จนกลายเป็น เอาตัวไม่รอด ผมเองก็เคยพลาด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการลงทุ น

แม้ปัจจุบัน จะรอบคอบมากแล้ว แต่ที่หนักสุด ก็คงเป็นห นี้ที่หลงใหลได้ปลื้ม ไปกับพวกบั ตรเครดิ ต

ผมผ่านมามากมายแล้ว เข้าใจดี ว่าการเป็นหนี้ มันหน้ามื ดตัวมัวแค่ไหน เป็นภาวะกลัวเสี ยงโทรศั พท์

กว่าจะผ่านมาได้ นี่ทุ กข์ระท มเกินจะบอกใคร และนี่คือเคล็ดลับ ที่ว่าตอนนั้นผมทำอะไร และก้าวผ่านเวลานั้น

มาอย่างไร เอาไว้พอเป็นแนวทางให้กับคนที่ “เป็นหนี้” ได้ลองไปปรับใช้กัน จะได้เป็นประโยชน์กับคนอื่นๆ

1.บันทึกรวบรวมห นี้ที่มี

ก็ได้เวลาแล้วที่ต้องมารวบรวมห นี้ ว่าเป็นหนี้ที่ไหนบ้าง เท่าไหร่ เป็นได้ยังไง นำมาบันทึกทำเป็นบัญชี

การรวมหนี้เรา อาจจะได้เห็นตัวเลขที่มันมากขึ้น ก็อย่าไปตกใจไป เราทำเพื่อให้รู้ว่า “หนี้”

ที่เรามีมันมากน้อยแค่ไหน และจะจัดการกับ “หนี้” อันไหนก่อน ประโยชน์อีกอย่าง

เราจะได้มานั่งทบทวน ว่าเราได้ทำอะไรพลาด ในชีวิตเกี่ยวกับการจ่ายเงินในอดีต

ทั้งนี้เพื่อเป็น “ภูมิคุ้มกัน” ในการวางแผนการ ใช้จ่ายเงินในอนาคตของเราเอง

2.ล้างใจ ก่อนที่จะล้างห นี้

สิ่งที่ต้องทำก่อนคือ ล้างใจให้เราไม่ทุกข์ เพราะยิ่งทุกข์ก็คิดอะไรไม่ออกชีวิตแ ย่

โฟกัสเรื่องใจก่อน ทำใจให้สบายล้างใจให้เป็นสุข เราก็อาจจะใช้วิธีเข้าวัด หรือคุยกับเพื่อนบ้าง

หาที่ปรึกษาที่คอยรับฟังเรา ระบ ายทุกข์มันออกไปแล้ว มาตั้งหลักจัดการกับ “หนี้” กลับมาสู้กันใหม่ด้วยหัวใจที่เข็มแข็ง

3.หนี้ไหน รีไฟแน น ท์ ได้ควรทำซะ

มีหนี้บางประเภททำรีไ ฟแ นนท์ได้ เพื่อยืดระยะเวลาออกไป ผมมองว่าหากจำเป็น ที่จะต้องรวมให้

หนี้มาเหลือเจ้าหนี้คนเดียว เป็นสิ่งที่ควรทำดีกว่าการมีเจ้าหนี้หลายคน เพราะมันมีความ

หลากหลายเรื่องด อ ก วิธีการเจรจาเงื่อนไขต่าง ๆ ถ้าเราสามารถทำให้ เจ้าหนี้เหลือเพียง 1-2 ราย

แล้วทีนี้มันจะง่ายในการคุย การเจรจา และช่วยกันหาวิธีผ่อ นชำระห นี้นั้นๆ

4.เรียงรับดับ การจ่าย จากด อกเบี้ยต่ำ ไปหามาก

ทีนี้เราค่อย ๆ จัดลำดับความสำคัญของ “หนี้” หรือเจรจาพูดคุยกับ “เจ้าหนี้ ” กับเราแล้วเรียงลำดั บตาม ด อ ก เบี้ย

ที่ต้องจ่ายให้เรียงจากด อ กเบี้ยต่ำ ไปหาสูง ทีนี้ก็ให้ดูที่จำนวนเงินต้น

ว่าเมื่อนำเงินต้นมาคูณกับดอ ก เบี้ย ที่ต้องจ่ายของแต่ละเดือน

“หนี้”ก้อนไหนเป็นจำนวนมากสุด เมื่อเรารู้แล้ว เราก็จะให้ความสำคัญกับหนี้ ก้อนนั้นก่อน

5.เจรจาพูดคุย กับเจ้าหนี้เรียงลำดับจาก ด อ ก เบี้ยสูงไปหา ด อ ก เบี้ยต่ำ

ทีนี้ก็ได้เวลาเจรจากับเจ้าหนี้สักที เข้าไปคุยกับเขาเลยก่อนที่เขาจะส่งใ บท วงมาหาเรา

อย่าพาตัวเองไปเข้ามุมอับ หรือหากอยู่ในมุมอับ ก็หาทางเบี่ ยงมันออกมาให้ได้ ไม่งั้นแย่แน่ๆ

เพราะไม่มีเจ้าหนี้ที่ไหนเขาไม่ อ ย า ก ได้เงินคืนหรอก ฉะนั้น สิ่งที่ดีที่สุดคือการยอมรับ และพูดคุยเจรจา

ผ่ อนเท่าที่เราพอทำได้ แสดงให้เห็นถึงความพย า ย า มเรา ถ้าจำเป็นต้องข าย

บางสิ่งเพื่อนำมาลดหนี้ แนะนำว่า ให้ข ายไปเถอะนะ

6.หยุดสร้างหนี้ใหม่

ระหว่างนี้ห้ ามสร้างหนี้ใหม่ หน้าที่อย่างเดียวคือ “หาเงิน” มาจ่ายหนี้เก่า ที่ทำไว้

ให้หมด อย า ก ให้นึกถึง โอ่ง ถังใส่น้ำ ประมาณนี้ เพราะหากมันรั่วเพราะ “ห นี้ใหม่”

มาอีก เติมน้ำในถังเท่าไหร่ ก็คงไม่มีวันเต็ม ฉะนั้นเรามีหน้าที่ ปิ ดรูรั่วเพียง จงเตือนตัวเองไว้

ครั้งนี้จะเป็น “เป็นห นี้ครั้งสุดท้าย” และเราก็ต้องทำได้

7.ในเมื่อจำเป็นต้องลง ทุ น ต้องเริ่มที่ลงแร ง แลกกับการล ง ทุ น ไปก่อน

การจะหาเงินมันต้องใช้ทุน แต่หากเราไม่มีทุนก็ต้องไปกู ้เขามาอีก อย่างนี้เมื่อไหร่หนี้จะหมดล่ะ ว่ามั้ย !!

ฉะนั้น ลองใช้วิธีลงแร งแลกทุน อย่างเช่น ผมใช้วิธีการข ายอ อ นไลน์แบบ D r o p s h i p คือ

ไปดูสินค้ าอันไหนที่มีคนสนใจมากๆ ก็ติดต่อเจ้าของเขา นำรูปสินค้ ามาโพ สข ายก่อน

อาจได้กำไ รไม่มากเท่าไหร่ แต่ทำไงได้ล่ะ เราไม่มีทุนก็ต้องใช้วิธีการแบบนี้ไปก่อน

เงินน้อย ต้องคิดให้มาก เงินมากเนี่ย ยิ่งต้องคิดให้มากกว่าเดิมอีก จงใช้ความคิด แร งกาย ก่อนที่จะใช้เงินแก้ปัญหา

8.เพิ่มร ายได้ให้ได้มากๆ เท่าที่จะทำได้

เพราะวิธีการพูดคุย ในการผ่ อ น ชำระห นี้ มันก็คือส่วนหนึ่งในการปิดรอยรั่ ว และยังไม่พอครับ

เราต้องหาเงิ นเข้ามาเพิ่มด้วย ตอนไม่มีหนี้ชีวิตก็ชิล ๆ นั่นแหละ แต่พอเป็นหนี้เท่านั้นแหละ

ศักยภาพเพิ่มขึ้นเท่าตัวเลย ทำได้ทุกอย่าง ขายของตล าดนั ด งานออ นไล น์

ช่องทางใด ที่ทำให้มีร ายได้เพิ่มขึ้น รีบวิ่งเข้าไปทำเลยทีเดียว

9.เปลี่ยนพฤติก ร ร มจากผ่อนจ่าย เป็นหยอดกระปุกได้ จึงซื้อ

ลองมาเป็นวิธีการหยอดกระปุก สะสมเงินแทนดีกว่านะ อย า กได้อะไร

ก็เก็บใส่กระปุกไว้ เขียนไว้เลยเงินนี้ เก็บเพื่อนบลา ๆๆ ได้เงินครบ ก็ค่อยนำเงินออกมาซื้ อ

หากสินค้ านั้นมันหมดไม่มีข ายก็ได้เก็บเงินไปด้วย เพื่อเป็นทุ นทำอย่างอื่นไปด้วยไง

และหนี้เป็นเรื่องที่เราควรเรียนรู้ ตอนเราลำบากมันจะเป็นเรื่องที่สร้างความทุ กข์ให้กับเรามาก

แต่พอเรามีเงินมีกิจการที่ดีขึ้น มันจะเป็นตัวช่วยในเรื่องการบริหารให้กับเราได้ ยิ่งธุรกิจดีเค รดิ ตดี

แหล่งเงินทุ นก็จะยิ่งยินดีที่จะให้เราเป็น “ห นี้” ในตอนนี้ “หนี้” ก็คงกลายเป็นเรื่องสบาย ๆ

10.รัดเข็มขัด ใช้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น

เพราะเราน่าจะพอซาบซึ้ง และเข้าใจแล้วใช่หรือไม่ว่า การที่“ฟุ่มเฟือย” มันทำให้ชีวิตเรามันวุ่นวายลำบากแค่ไหน

แล้วที่ต้องหาเงินมาจ่ายห นี้ต่าง ๆ นานานั้น เป็นภาวะที่เป็นหนี้จ่ายให้น้อย

หาให้มากต้องสะกดคำว่า “พอเพียง” ให้ได้ คือเรียนรู้ประสบการณ์สร้างภูมิต้ านทานจากประสบการณ์ที่เคยเจอ

และนำความรู้มาต่ อ ยอดสิ่งใหม่ๆ อะไรที่มันไม่จำเป็น ทิ้งๆ มันไป รับรองชีวิตเราจะดีขึ้น

ขอบคุณ tao k a em a i