การทำดี ต้องทำดีให้พอควร ไม่ใจดีมากไป
การเป็นคนดีนั้น ก็ต้องเป็นคนดีให้พอควร
การเป็นคนดีเกินไป ใคร ๆ ก็จะไม่เกรงใจ ใครก็จะเอาเปรี ยบ
การทำดีเกินไป ใคร ๆ ก็จะไม่เห็นคุณค่า ในสิ่งที่เราได้ทำไป
แต่เขากลับเห็นเราเป็นคน โ ง่ ที่ยอมให้คนอื่นเอาเปรี ยบเสมอๆ
บางครั้งจำยอม ไม่ใช่เพราะ ไ ร้ ซึ่งเหตุผล
แต่เพราะไม่อย ากโ ต้ เ ถี ย ง ให้เปลื องเวลา
กาลเวลาพิสูจน์ทุกอย่าง และทุกอย่างอธิบายน้ำใจคนได้
เมื่อจะดูคน อย่าใช้ตาดูเพียงอย่างเดียว จะดู ผิ ด ได้ง่าย
และไม่ควรฟังด้วยหู เพราะล้วนเป็นคำ เ ท็ จ
มีเพียงอาศัยเวลา รับรู้ด้วยใจ สิ่งที่จริง จะล ว ง เราไม่ได้
สิ่งที่ล ว ง ก็เป็นจริงไม่ได้เช่นกัน กาลเวลานั้นดี พิสูจน์ใจคน
เป็นประจักษ์พย านในนิสัยคน เห็นความจริง เปิด โ ป ง ความ ล ว ง
การเป็นคนดี ก็ต้องเป็นคนดีให้พอเหมาะพอควรด้วย
การทำดี ก็ต้องทำดีให้พอเหมาะพอควรเช่นกัน
จะต้องเป็นคนดีระดับไหน จึงจะได้ชื่อว่า “เป็นคนดีเกินไป”
1. ถึงตัวเองไม่ได้ทำผิ ด
แต่ก็ยังขอโท ษ เป็นฝ่ายยอมรับผิ ดเองทั้ง ๆ ที่ไม่ได้กระทำผิ ดใดๆ ทำให้อีกฝ่ายหนึ่งลืมตัว ไม่สำนึกในความผิ ดของตน และมักโท ษใครต่อใครอยู่เสมอ
2. ช่วยคนอื่นมากเกินไป
จนลืมที่จะรักตัวเอง ลืมที่จะดูแลตัวเอง หรือแม้แต่จะยอม ติ ด คุ ก แทนคนอื่นที่เขา ทำ ผิ ด ให้คนอื่นมากไป จนตัวเองไม่เหลืออะไร
3. ทำดีกับทุกคน
โดยไม่แยกว่า ทำดีถูกคนมั้ย เขาสำนึกในความดีของเราหรือไม่ จดจำความดีของเรามั้ย เขาเห็นคุณค่าในสิ่งที่เราทำหรือไม่ การทำดีผิ ด คน ก็เหมือนเทน้ำลงในทะเลทราย ไม่ทำให้พืชต้นใด เจริญ ง อ ก งามได้เลย
4. เจ็ บ แล้วไม่จำ ให้อภัยคนอื่นเสมอ
ไม่จดจำความผิ ดที่เขาเคยทำกับเรา ถูกเขาทำซ้ำแล้วซ้ำอีก เหมือนไม่เ ข็ ด ห ล า บ เหมือนคนโ ง่ ที่ไม่เรียนรู้ชีวิต เพราะดีเกินไป
การเป็นคน “ดีเกินไป” นั้น มักนำความเ ดื อ ด ร้อนมาสู่ตัวเอง
ไม่เป็นประโยชน์ต่อตัวเองแม้แต่น้อย ทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้คนอื่นได้ใจ
และชอบเอาเปรี ยบเราไปเรื่อย ๆ การเป็นคนดีนั้น ก็ให้พอเหมาะพอควร การทำดี ไม่ให้ตนเองเ ดื อ ด ร้อน
ไม่ถูกเอารัดเอาเปรี ยบ คนดีต้องรักตัวเองก่อน จะทำดี ก็จงอย่าให้ตัวเองเ ดื อ ด ร้อนเลย
และทำดีให้ถูกคน ทำดีกับคนที่รู้จักสำนึก ในความดีของคนอื่น
ถ้าคนไหนไม่สำนึก ก็จงเลิกทำดีกับเขา อย่าเสี ยเวลา
ให้กับคนที่เห็นการทำดีเป็นความโ ง่ เพราะฉะนั้น จงอย่าดีเกินไป