อ่ า น ทีไรก็เตือนตัวเองได้เสมอ ไม่เคยเบื่อเลย
แม่ของผมเป็นคนที่ชอบทำอาหารประจำอยู่ที่บ้าน
มีอยู่คืนหนึ่งแม่ของผมทำงานหนักมาตลอดทั้งวัน
พอแม่กลับมาด้วยความเหนื่อยล้า อยๅกจะพักผ่อนแล้ว
แต่ยังพักไม่ได้ เพราะยังไม่ได้ทำอาหารให้ลูกกับสามี
ก็เลยทำอาหารให้ แม่ได้ ท อ ด ป ล า ทูให้กับทุกคนทาน
บนโต๊ะมี ป ล า ทู ไ ห ม้ เ ก รี ย ม ตัวผมก็รอดูว่าแต่ละคนนั้น
จะทำยังไง จะพูดยังไงกับปลๅทูตัวนี้กัน
แต่พ่อก็ไม่ได้พูดอะไรเลย และตั้งหน้าตั้งตากิ น ป ล า ทูตัวนั้นอีก
แล้วยังหันมาถามกับผมว่าที่โรงเรียนในตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างล่ะ
ในคืนนั้นหลังจากที่ได้กินอาหารเสร็จ
ผมจำได้เลยว่าผมได้ยินแม่ขอ โ ท ษ ที่ ท อ ด ป ล า ทู ไ ห ม้
ให้กับพ่อทานและผมก็ไม่เคยลืมคำพูดที่พ่อพูดกับแม่ในวันนั้น
“แค่นี้เอง พ่อชอบกินปลๅทูทอด เ ก รี ย ม ๆ อร่อยมากๆนะแม่”
คืนต่อมาผมก็เกิดคำถามขึ้นในใจ ก่อนนอนผมได้ถามกับพ่อไปว่า
“พ่อครับจริงๆแล้วพ่อชอบปลๅทู เ ก รี ย ม ๆแบบนั้นจริงหรอครับ”
พ่อก็ยิ้มแล้วก็ลูบหัวผมด้วยความอ่อนโยน แล้วก็พูดมาว่า
“แม่ของลูกนั้นทำงานเหนื่อยและหนักมาตลอดทั้งวันแล้ว
ก็แค่ปลๅทู ไ ห ม้ แค่ตัวเดียวแค่นี้เองนะ มันไม่ได้ไป ทำ ร้ า ย ใครเลย
ไม่ต้องไปพูดให้ใจของแม่นั้น ขุ่ น มั วหรอก
มันจะกลายเป็นคําพูดต่อว่าที่ ทำ ร้ า ยน้ำใจกันนะ”
ชีวิตของคนเราเต็มไปด้วยความไม่สมบูรณ์แบบด้วยกันนั่นแหละ
ซึ่งแต่ละคนก็เกิดมาไม่ได้ สมบูรณ์แบบไปทุกอย่างหรอก
ตัวเราเองก็ไม่ได้มี ดีอะไรไปมากกว่าผู้อื่นเขา
แต่สิ่งที่พ่อได้เรียนรู้ในช่วงชีวิตนี้นั่นก็คือ
การได้เรียนรู้ที่จะยอมรับความ ผิ ด พ ล า ดนั้น
ของตนเองและคนอื่น และเลือกที่จะยินดี
กับความคิดต่างของกันและกัน และสิ่งเหล่านี้
เป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ จะต้องรักษ าน้ำจิตน้ำใจ
รักษาครอบครัว เพียงเท่านี้ก็สามารถทำให้มีความสุข
และใช้ชีวิตได้อย่างยืนยๅวแล้ว “ชีวิตของเรานั้นช่ๅงสั้นเหลือเกิน
เกินกว่าที่จะตื่นมาพร้อมกับความเสี ยใจ
ถ้าวันใดวันหนึ่งเราทำ ผิ ด พ ล า ดอะไรไป
ก็เพียงตื่นขึ้นมาถนอมน้ำใจกัน พยๅยๅมทำความเข้าใจ
ให้อภัยกันและกันจะดีกว่านะ”
หากเรารู้สิ่งเหล่านี้เรายังจะทำอยู่ไหม
ถ้ามีอยู่วันหนึ่งเรา บี บ แตรใส่คนที่กำลังอยู่กลางถนนที่ติดไ ฟแดง ถ้าเรารู้ว่าเขาใส่ขาเ ที ย ม เรายังจะ บี บ แตรใส่เขาไหม
ถ้ามีอยู่วันหนึ่งเราเดินช นคนที่เขาเดินช้ามากๆ แล้วเรามารู้ทีหลังว่าเขาเพิ่งจะตกงาน เรายังจะอๅรมณ์ร้อนอยู่ไหม
ถ้าในวันนี้เราหัวเราะคนที่แต่งตัวเชย แล้วเรารู้ว่าเขามีชุดเก่งเพียงชุดเดียว เรายังจะทำอยู่อีกไหมล่ะ
หากเรา ดู ถู ก คนที่ทำงานโรงงาน แล้วเขามาเดินห้างเราจะ นิ น ท า เขาไหมถ้าเรารู้ว่านั่นคือการฉลองวันเกิดของเขา
เราจะ รำ ค า ญ และหมั่น ไ ส้ ลุงแก่ๆที่หัวเราะเสี ยงดังคนนั้นไหม ถ้าเรารู้ว่าเขาจะอยู่บนโลกนี้ได้เพียงแค่หนึ่งเดือนแล้ว
ชีวิตของคนเราก็รู้อยู่แก่ใจว่ากำลังทำอะไรอยู่ รู้ว่าชีวิตของเรากำลังเจอกับอะไรบ้าง แต่เราไม่มีวันรู้ว่า “คนที่เราเจอเขากำลังคิดกำลังทำอะไรอยู่”
โลกใบนี้มันกว้าง และโลกมันก็ไม่ได้หมุนรอบเราเอง ให้มองข้ามเรื่องเล็กๆน้อยๆไปบ้าง ให้โอกาสให้อภัยกัน ให้ความเข้าใจกัน เราจะได้รักและอยู่ร่วมกันได้
ขอขอบคุณ P0stsara