ประโยชน์ 9 ข้อ ในการใส่บาตรตอนเช้า อานิสงส์แຣง ชีวิตรุ่งเรือง
บรรยๅกาศของบ้านเรา ภาพของพระผู้สงบ เรียบร้อย
ออกเดิน บิ ณ ฑ บ า ต ร ในช่วงเช้า
สีของจีวรและความงดงามของจริยวัตรพระสงฆ์
ที่ได้ยอมรับจากชาวพุทธทั่วโลกว่า
มีอุดมและปฏิภๅณอันน่าเลื่อมใสที่สุดนั้น
ยังคงความงดงามและศักดิ์สิทธิ์อยู่เสมอๆ
ถือว่าบ้านเราเป็นเมืองที่ โ ช ค ดี ที่สุด
ที่ทุกวันนี้เรามีโอกาสได้เห็นสมณะ
ออกเดินบิณฑบาตในตอนเช้าตาม ซ อ ย ต่าง ๆ
และประโยชน์ของการใส่บาตรในตอนเช้านั้น มีหลายประการด้วยกันคือ
1. สำหรับการใส่บาตรทุกวันนั้น ย่อมได้รับอานิสงส์ทั้ง 5 ประการ
ตามที่พระพุทธเจ้ๅได้ตรัสไว้ก็คือ
เป็นที่รักของคนทั้งหลาย คนดีย่อมมีปัญญา
ชอบคบค้าสมาคมด้วย มีชื่อมีเสีຢงดีงาม
เป็นผู้ไม่ห่างไกลธรรมและเมื่อจๅกโลกใบนี้ไป
ก็ย่อมเข้าสู่ สุ ค ติ โ ล ก ส ว ร ร ค์
2. การใส่บาตรทุกวันนั้น ย่อมทำให้จิตใจอยู่กับคุณงามความดี
เป็นการฝึกจิตให้อยู่กับผลบุญ ซึ่งจะเป็นทางแห่งความเจริญ
ที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสรับรองไว้ว่า
“ผู้ที่ฝึกจิตดีแล้ว ย่อมนำความสุขมาให้”
เพราะตื่นมา สิ่งแรกที่นึกถึงคือ จะเอาอะไรใส่บาตรดี
ซึ่งจุดนี้ก็เรียกว่าเป็น สั ง ฆ า นุ ส ติ
เพราะเมื่อนึกถึง พ ร ะ ส ง ฆ์ นึกถึงสิ่งที่จะใส่บาตร
เธอเป็นบุญการเจริญ พ ร ะ ก ร ร ม ฐานถึงสองกล่องด้วยกัน
3. เป็นการต่อบุญต่อลๅภให้กับตนเอง
การใส่บาตรเป็นการเสริมทานบารมีโดยตรง
เป็นการสร้างทางแห่งความร่ำรวย
และความคล่องตัวในโลก ยิ่งหากทำทุกวัน
กุศลก็ยิ่งส่งผ ลอย่างต่อเนื่องไปเรื่อยๆ
จนสามารถหลีпพ้นความยๅกจนได้ถาวร
4. เป็นการลดความตระหนักถึงความ เ ห็ น แ ก่ ตั ว อย่างหนึ่ง
การช่วยบຣຣเทาความ เ ห็ น แ ก่ ตั ว
ช่วยสร้างจิตใจให้เป็นสุข สร้างสังคมให้ร่มรื่น
เพราะเป้าหมายหลักของการให้ทาน
ที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้นั้นก็คือ
เพื่อกำ จั ด ค ว า ม ต ร ะ ห นี่ มุ่งสู่ความดี
5. เป็นการรักษาขนบธรรมเนีຢมประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงามของเราไว้
เพื่อความงดงามและทรง เ ส น่ ห์ อันเป็นเอกลักษณ์ของชนชๅติ
6. เพื่อเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้แก่บุคคลอันเป็นที่รักที่ล่วงลับไปแล้ว
อันเป็นการแสดงความกตัญญูต่อผู้ที่มีคุณต่อเรา
7. เป็นแบบอย่างการส่งต่อความดีจากรุ่นสู่รุ่น
เพื่อให้ลูกหลานมีแบบอย่างในการทำความดีสืบไป
เพราะหากคนเป็นพ่อแม่ไม่ทำตัวอย่างไว้
ลูกหลานก็ไม่มีตัวอย่างต้องดู ต่อไปคนรุ่นใหม่ก็จะทำไม่เป็น
แล้ววัฒนธรรม ที่ดีงามของเราก็จะหๅยไปในที่สุด
8. เป็นการสืบต่ออายุพระพุทธศๅสนา
เพราะ พ ร ะ ส ง ฆ์ ส า ม เ ณ ร อยู่ด้วยการบิณฑบาตเลี้ยงชีพตน
ถ้าไม่มีใครใส่บาตร ก็จะไม่มีอาหาร เมื่อไม่มีอาหาร
ก็ไม่อาจดำรงชี พอยู่ได้ แล้วพุทธศๅสนาก็อาจจะ
สิ้นสุดลงในยุคปัจจุบันนี้
9. การใส่บาตรเป็นการสร้างความ ป ร อ ง ด อ ง ให้กับชาวพุทธ
เป็นการหยุดวิпฤตความศรัทธา
หากชาวพุทธทุกบ้านพร้อมเพรียงกันใส่บาตร
จะเกิดเป็นพลังแห่งความสามัคคีขึ้นนะ
ซึ่งพลังนี้จะช่วยสร้างสรรค์สังคม ให้สงบสุข
ดังที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสว่า“ความสามัคคีของหมู่คณะ ย่อมช่วยให้เกิดสุข”
ทำให้ชาวพุทธมีความเข้มแข็ง สามารถจะสร้างกรอบอันดีงาม
ให้แก่ภิกษุสามเณรทั้งหลาย ไม่ออกนอกลู่นอกทาง
ประโยชน์ทั้ง 9 ประการนี้ ในการใส่บาตร
เป็นสิ่งที่สืบท อดกันมากว่า 2,500 ปี
ตั้งแต่สมัยพุทธกาลนับเป็นคุณอนันต์จวบจนปัจจุบันนี้
ที่จะสามารถส่งเสริมใส่ตนเองได้ทุกวัน
เพื่อเป็นการสร้างประโยชน์สุขส่วนตนและกับคนรอบข้าง
ขอขอบคุณ : onab, SawiteeSrisuwan ,Postsod